ในเช้าวันหนึ่งของงานสัมมนาด้านความยั่งยืนที่กรุงเทพฯ คุณอรัญ นักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม ยืนอยู่หน้าห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลายอุตสาหกรรม เขาเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ:
“ลองจินตนาการถึงซองขนมที่คุณถืออยู่ในมือ ซองเล็ก ๆ นี้มีเส้นทางชีวิตที่ซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงปลายทาง มันได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในแบบที่เราอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน”
ผู้เข้าร่วมสัมมนาเริ่มตั้งใจฟัง คุณอรัญยิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายถึง Carbon Footprint หรือรอยเท้าคาร์บอนที่เกิดขึ้นในวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้
ต้นทาง: การผลิตวัตถุดิบ
เรื่องราวเริ่มต้นที่โรงงานปิโตรเคมี วัตถุดิบหลักของซองพลาสติกส่วนใหญ่คือพลาสติกที่ได้จากปิโตรเลียม การสกัดน้ำมันดิบ การกลั่น และกระบวนการผลิตพลาสติก ล้วนแต่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล “ซองขนมแต่ละซอง อาจปล่อยก๊าซ CO2 เทียบเท่ากับการขับรถยนต์หลายกิโลเมตร” คุณอรัญอธิบาย
กระบวนการผลิตและการขนส่ง
หลังจากได้วัตถุดิบ พลาสติกถูกส่งไปยังโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ กระบวนการขึ้นรูป การพิมพ์ และการเคลือบวัสดุเพิ่มเติมต่าง ๆ ก็ก่อให้เกิด Carbon Footprint เพิ่มเติม “ยิ่งซับซ้อน ยิ่งใช้พลังงานมาก” เขากล่าว พร้อมแสดงภาพกราฟิกที่แสดงการปล่อยคาร์บอนในแต่ละขั้นตอน
เมื่อบรรจุภัณฑ์ถูกผลิตเสร็จแล้ว มันจะถูกขนส่งไปยังโรงงานที่บรรจุสินค้า และในที่สุดก็ส่งไปยังร้านค้าปลีก “ทุกกิโลเมตรของการขนส่งเพิ่มรอยเท้าคาร์บอนให้กับผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อ” คุณอรัญกล่าวพร้อมแสดงตัวเลขเปรียบเทียบของการขนส่งทางรถบรรทุกและทางเรือ
การใช้งานและปลายทาง
หลังจากผู้บริโภคใช้ซองขนมเสร็จ ซองนี้มักจะลงเอยที่ถังขยะ แต่การเดินทางของมันยังไม่สิ้นสุด หลายซองถูกฝังกลบหรือถูกเผา ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ล้วนแต่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติม “บางส่วนอาจถูกรีไซเคิล แต่ต้องยอมรับว่า Flexible Packaging ส่วนใหญ่รีไซเคิลได้ยาก เพราะมักประกอบด้วยวัสดุหลายชนิด” คุณอรัญเล่าอย่างตรงไปตรงมา
บทเรียนจากเรื่องเล่า
เรื่องราวของซองขนมนี้ทำให้ผู้ฟังเริ่มตระหนักถึงความซับซ้อนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Flexible Packaging คุณอรัญปิดท้ายด้วยคำถามที่กระตุ้นความคิด:
“ถ้าคุณสามารถออกแบบซองขนมที่ลด Carbon Footprint ลงได้ คุณจะเริ่มต้นที่ตรงไหน? วัสดุ การผลิต หรือการจัดการหลังการใช้งาน?”
ห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงพึมพำของผู้เข้าร่วมที่เริ่มถกเถียงกันถึงแนวทางการแก้ปัญหา คุณอรัญยิ้มอีกครั้งและกล่าวว่า “ในบทความตอนถัดไป เราจะมาดูทางออกที่เป็นไปได้ ทั้งในเรื่องวัสดุและกระบวนการที่ช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนนี้ ขอให้ติดตามครับ”
เรื่องเล่านี้ไม่เพียงแค่ให้ความรู้เกี่ยวกับ Carbon Footprint แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านมองเห็นภาพรวมของวงจรชีวิตบรรจุภัณฑ์ Flexible Packaging ได้ชัดเจนขึ้น พร้อมปลุกความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาทางแก้ไขที่ยั่งยืนในอนาคต